ผดร้อน

ผดกับหน้าร้อน มักเป็นของคู่กัน พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ผดหรือทางการแพทย์เรียกว่า miliaria คือการอุดตันของท่อระบายเหงื่อ ทำให้ร่างกายขับเหงื่อไม่ได้

สาเหตุการเกิดผดร้อน

ผดร้อนเกิดจากการอุดตันของรูขุมขน และไม่สามารถขับเหงื่อได้ มักเกิดในฤดูร้อนในพื้นที่ภูมิอากาศแบบเขตร้อน และหลังจากการออกกำลังกายอย่างหนัก การใส่เสื้อผ้าที่กักเก็บเหงื่อ รวมถึงการใช้โลชั่นและครีมที่หนา และหนักก็ทำให้เกิดผดร้อนได้เช่นกัน ส่วนในเด็กทารกมักเกิดผดร้อนเนื่องจากรูขุมขนยังพัฒนาไม่เต็มที่

ลักษณะของผดร้อน

มี 4 ชนิด ขึ้นกับระดับความลึกของการอุดตัน

1. Miliaria crytallina ผดชนิดนี้มีการอุดตันของท่อระบายเหงื่อในระดับตื้นที่สุด จากนั้นมีการแตกออกของท่อระบายเหงื่อ ทำให้ผื่นเกิดเป็นตุ่มน้ำใสขนาดเล็กๆ แตกง่ายเมื่อสัมผัสหรืออาบน้ำ ไม่คัน สามารถหายเองได้ ในเด็กเล็กมักขึ้นที่หน้าและลำตัวส่วนบน ผู้ใหญ่มักขึ้นที่ลำตัว
2. Miliaria rubra พบได้บ่อยที่สุดและเรารู้จักกันดีในนามว่า “ผดร้อน” มีการอุดตันของท่อระบายเหงื่อในระดับกลางของหนังกำพร้า ผื่นเป็นตุ่มแดง คัน บางครั้งอาจแสบร้อนได้ มีอาการหลังจากอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ร้อน อบอ้าว ผื่นมักขึ้นที่ลำตัวส่วนบนทั้งในเด็กและผู้ใหญ่
3. Miliaria pustulosa เป็นผลจาก “ผดร้อน” ที่เป็นมากและนานจนเกินไปจนเกิดเป็นตุ่มหนอง และบางครั้งเกิดจากภาวะแทรกซ้อนของเชื้อแบคทีเรียที่ได้มาจากการเกา
4. Miliaria profunda ผดชนิดนี้ส่วนหนึ่งเกิดมาจาก “ผดร้อน” ที่เป็นเรื้อรัง เป็นแล้วเป็นอีกอยู่เรื่อยๆ จนนำไปสู่การอุดตันของท่อระบายเหงื่อในระดับลึกที่สุด ลักษณะผื่นเป็นตุ่มนูนสีขาวขนาด 1-3 มิลลิเมตร พบได้ที่ลำตัวและขาส่วนบน ผื่นชนิดนี้พบได้น้อย

การป้องกัน

• หลีกเลี่ยงสภาพอากาศร้อนเกินไปโดยเฉพาะในฤดูร้อน อยู่ในห้องที่อากาศเย็นสบาย
• สวมใส่เสื้อผ้าเนื้อบางๆ ไม่รัดรูป ระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าฝ้าย
• อาบน้ำเย็นหรือเช็ดตัวช่วยคลายร้อน ใช้สบู่ที่ไม่ทำให้ผิวหนังแห้ง
• หลีกเลี่ยงการทาครีมหรือโลชั่นที่ก่อให้เกิดการอุดตัน ประเภทน้ำมัน และขี้ผึ้ง

เมื่อไหร่ควรพบแพทย์

ผดร้อนมักจะหายได้เองภายในเวลาไม่กี่วัน แต่ควรไปพบแพทย์หากคุณมีอาการต่อไปนี้

• มีไข้ หนาวสั่น
• มีหนองออกจากตุ่ม
• ปวดมากขึ้น
• คันหรือแดงอักเสบมาก
• เกิดผดร้อนและไม่หายไปเมื่อผ่านไปหลายวัน
• มีอาการเป็นบ่อยๆ