degrees call-center-agent ambulance stethoscope hours-phone-service wifi-connection-signal-symbol drink-water water-heater bowl-in-a-microwave freezer wardrobe computer cutlery table sofa newspaper cd-player television bathroom-furniture toilet patient-in-hospital-bed hospital-bed
label

โรคฟันผุเป็นโรคที่พบมากที่สุดของเด็กไทย โดยร้อยละ 50 มีฟันผุก่อนเข้าชั้นอนุบาล

เลี้ยงลูกอย่างไร ? ไม่ให้ฟันผุ

ฟันผุ เกิดจากแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในช่องปากรวมตัวกับเศษอาหาร และน้ำลายสะสมกันเป็นคราบเหนียว ที่เรียกว่า คราบฟัน หรือคราบแบคทีเรีย ซึ่งจะเกาะอยู่บนผิวของฟัน แบคทีเรียจะเปลี่ยนสภาพน้ำตาล และแป้งให้เป็นกรด มีฤทธิ์ทำลายแร่ธาตุที่ผิวฟัน จนก่อให้เกิดเป็นรู โดยเริ่มจากขนาดเล็กๆ ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นโรคฟันผุ

ปัญหาฟันผุในเด็ก เกิดได้ในเด็กตั้งแต่อายุไม่ถึง 1 ปี หรือเริ่มมีฟันน้ำนมขึ้นเป็นซี่แรก เนื่องจากชั้นเคลือบฟันของฟันน้ำนมจะบางกว่าชั้นเคลือบฟันของฟันแท้ และยังมีแร่ธาตุที่เป็นองค์ประกอบของความแข็งแรง เช่น แคลเซียม และฟอสฟอรัสน้อยกว่าในฟันแท้อีกด้วย จึงทำให้ฟันน้ำนมมีโอกาสผุได้ง่ายมาก

ผลกระทบของโรคฟันผุ

  • รับประทานอาหารได้ไม่ดี
  • อาจทำให้เจริญเติบโตช้ากว่าปกติ
  • เกิดความเจ็บปวด
  • เสี่ยงฟันผุเพิ่มในอนาคต

อาการ

  • มีรอยขุ่นขาวบิรเวรร่องฟัน หรือเคลือบฟัน
  • มีรอยผุเป็นรูบนตัวฟัน เสียวฟัน ปวดฟัน
  • เหงือกบวมแดง มีหนอง เนื่องจากการอักเสบ

วิธีป้องกัน

  • เลิกใช้ขวดนม เมื่ออายุ 1 ปี โดยฝึกใช้แก้ว ตั้งแต่ 6-12 เดือน
  • ฝึกนิสัยไม่ทานอาหารหวานจัด และไม่ทานจุกจิก
  • แปรงฟัน และบ้วนปากหลังรับประทานอาหาร
  • พบทันตแพทย์เพื่อตรวจฟัน ทุก 6 เดือน

โรคฟันผุในเด็กเป็นปัญหาสุขภาพที่ผู้ปกครองต้องใส่ใจ และดูแลอย่างใกล้ชิด ต้องไม่ละเลยการทำความสะอาดช่องปากให้เด็ก สอนเด็กให้เรียนรู้เรื่องการแปรงฟันอย่างถูกวิธีเพื่อให้เด็กเคยชิน

รวมถึงควรพาบุตรของท่านไปพบทันตแพทย์ทุก ๆ 6 เดือน หลังจากฟันน้ำนมซี่แรกขึ้น หรือไม่เกินอายุ 1 ขวบครึ่ง เพื่อตรวจสภาพฟัน และรับคำแนะนำในการดูแลรักษาสุขภาพในช่องปาก และฟันอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาฟันผุ กลายมาเป็นปัญหาในอนาคต


© 2024 โรงพยาบาลขอนแก่นราม