ภาวะตัวเหลือง
ภาวะตัวเหลืองในทารกแรกเกิดไม่ใช่โรค แต่เป็นอาการที่เกิดจากการสะสมสารสีเหลืองที่มีชื่อว่า บิลลิรูบิน ในกระแสเลือดสูงกว่าปกติ ร่วมกับตับของทารกแรกเกิดยังไม่สมบูรณ์มากพอที่จะกำจัดบิลลิรูบินออก จากร่างกายได้ สารสีเหลืองนี้จะไปเกาะตามส่วนต่างๆ ของร่างกายทำให้ทารกมีอาการสีผิวเหลืองหรือตาเหลือง
อันตรายจากภาวะตัวเหลืองในทารก
สารสีเหลืองที่มีมากเกินไปจะไปเกาะเซลล์สมอง ทำให้เกิดความผิดปกติสมอง (Kernicterus) ทำให้มีอาการซึม ไม่ดูดนม อาเจียน ร้องเสียงแหลม ชัก หยุดหายใจ และอาจทำให้ถึงขั้นปัญญาอ่อนได้ถ้าไม่รักษาให้ทันเวลา
ภาวะตัวเหลืองที่พบในทารกแรกเกิด แบ่งได้ 2 ชนิด
- ตัวเหลืองตามธรรมชาติ พบตัวเหลืองภายหลัง 24 ชั่วโมง หลังคลอด และหายเหลืองได้เองภายใน 1–2 สัปดาห์ โดยทารกสุขภาพแข็งแรงปกติดี
- ตัวเหลืองมากกว่าปกติ จากหลายสาเหตุ เช่น ทารกคลอดก่อนกำหนด ทารกที่ได้รับนมแม่ไม่เพียงพอ กลุ่มเลือดมารดาและทารกไม่เข้ากัน ภาวะพร่องเอนไซม์ G-6PD โรคท่อน้ำดีอุดตัน ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด ภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมน เป็นต้น มักตัวเหลืองภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลอด หรือตัวเหลืองนานกว่า 1–2 สัปดาห์ และอาจมีอาการเจ็บป่วยอื่นร่วมด้วย เช่น ซึม ไม่ดูดนม เป็นต้น
การวินิจฉัยภาวะตัวเหลือง
โดยทั่วไปกุมารแพทย์จะตรวจร่างกายโดยดูจากสีผิว สีตา รวมถึงสีอุจจาระ หากพบว่ามีอาการตัวเหลืองมาก จะเจาะเลือดเพื่อตรวจวัดระดับของสารสีเหลือง หากพบว่ามีค่าสารเหลืองมากกว่าเกณฑ์ปกติ จะต้องได้รับการรักษาตามขั้นตอนต่อไป
การรักษาภาวะตัวเหลืองในทารกแรกเกิด
- ส่องไฟรักษาด้วยแสงสีฟ้าที่มีความเข้มสูง จะช่วยเปลี่ยนสภาพของสารสีเหลืองให้ขับออกทางอุจาระ และปัสสาวะได้ง่าย ซึ่งแสงแดดธรรมชาติไม่สามารถรักษาภาวะนี้ได้
- เปลี่ยนถ่ายเลือด เป็นการนำเอาเลือดที่มีสารสีเหลืองออกจากตัวทารก แล้วให้เลือดใหม่แทน วิธีนี้จะใช้กับทารกที่มีระดับสารเหลืองสูงมาก และไม่ตอบสนองการรักษาแบบส่องไฟรวมถึงทารกที่มีอาการทางสมอง
วิธีปฏิบัติตัวและป้องกันภาวะตัวเหลืองในทารกแรกเกิด
- ให้ทารกดูดนมแม่ หรือนมอย่างน้อย 8–12 ครั้งใน 24 ชั่วโมง ไม่จำเป็นต้องให้ทารกดื่มน้ำเพราะนอกจากไม่ช่วยกำจัดสารเหลือง แล้วยังทำให้ทารกดื่มนมได้น้อยลงจนได้รับนมไม่เพียงพอ
- สังเกตทารกตัวเหลืองอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง ในที่ที่มีแสงสว่างเหมาะสม วิธีตรวจง่ายๆ คือ ใช้นิ้วรีดผิวหนังบริเวณหน้าท้องหรือต้นขาของทารก หากพบว่าเหลืองแสดงว่ามีอาการตัวเหลืองมากผิดปกติควรรีบพาทารกไปพบแพทย์
หากสังเกตเห็นทารกมีอาการผิดปกติดังต่อไปนี้ ควรรีบมาพบแพทย์
- ตัวเหลืองเข้มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือตาเหลืองชัด
- อายุเกิน 1 สัปดาห์ แล้วแต่ยังมีอาการตัวเหลืองอยู่
- ถ่ายอุจจาระมีสีซีด ปัสสาวะสีเข้มกว่าปกติ
- ตัวเหลืองมากร่วมกับซึม ไม่ยอมดูดนม หลับเป็นส่วนใหญ่ เกร็ง ชัก ให้รีบนำทารกพบแพทย์
แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง
แพ็กเกจวัคซีนเด็ก
วัคซีนป้องกันนิวโมคอคคัส
วัคซีนป้องกันนิวโมคอคคัส
วัคซีนป้องกันไข้เลือดออก
วัคซีนป้องกันไข้เลือดออก
วัคซีนไข้หวัดใหญ่
วัคซีนไข้หวัดใหญ่
แพ็กเกจผ่าตัด ต่อมทอนซิล & อดีนอยด์
เจ็บคอ ป่วยบ่อย อย่าปล่อยให้ทอนซิลอักเสบเรื้อรัง
คุกกี้และความเป็นส่วนตัว
เมื่อคลิก “อนุญาตคุกกี้ทั้งหมด” หมายความว่าผู้ใช้งานยอมรับที่จะเปิดการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ เพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและเต็มประสิทธิภาพ เพื่อเปิดใช้คุณสมบัติของโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการทำการตลาดและการโฆษณา รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลการใช้งานกับพาร์ทเนอร์โซเชียลมีเดีย