การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม (Total Knee Replacement)
ข้อเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis) เกิดจากกระดูกอ่อนของข้อเข่าหรือผิวข้อสึกกร่อน ทำให้ผิวข้อไม่เรียบและน้ำหล่อเลี้ยงในเข่าลดลง เกิดการเสียดสีระหว่างข้อเข่า ทำให้เกิดเสียงดังในเข่าและมีอาการปวด เคลื่อนไหวลำบาก ทำกิจวัตรประจำวันได้น้อยลง หากเป็นเรื้อรังข้อเข่าจะบวมอักเสบและมีน้ำขังในข้อ อาจมีข้อเข่าผิดรูป หรือข้อเข่ายึดติดทำให้เหยียดหรืองอขาไม่ได้
สาเหตุเกิดจากอายุมากขึ้น, โรคอ้วน, น้ำหนักมาก หรือข้อเข่าเคยได้รับบาดเจ็บ
การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม
แพทย์จะทำผ่าตัดโดยการนำผิวกระดูกอ่อนที่เสื่อมสภาพแล้วออก หลังจากนั้นจะนำข้อเข่าเทียมซึ่งทำมาจากโลหะและพลาสติกโพลิเอทรีลีนชนิดพิเศษ ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อรักษาข้อเข่าเสื่อมโดยเฉพาะมาใส่แทนที่ โดยยึดด้วยซีเมนต์ยึดกระดูก แล้วจัดแกนขาที่ผิดรูปให้กลับมาตรงดังเดิม
โดยสามารถทำผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อบางส่วน (Partial Knee Arthroplasty) หรือเปลี่ยนผิวข้อทั้งหมด (Total Knee Replacement)
การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม จึงเป็นการผ่าตัดเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ทำให้ผู้ป่วยหายจากอาการเจ็บปวดทรมาน สามารถเดินได้ตามปกติหรือใกล้เคียงปกติ และเดินได้ไกลมากขึ้น สามารถออกไปใช้ชีวิตประจำวันหรือท่องเที่ยวได้ รวมถึงรูปร่างของข้อเข่าดูสวยงามขึ้น
ผู้ป่วยที่เหมาะสมจะผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียม
- ผู้ป่วยสูงอายุที่มีข้อเข่าเสื่อมในระยะสุดท้าย
- ผู้ป่วยที่ต้องทานยาแก้ปวดต่อเนื่องกันทุกวัน
- มีอาการปวดมากจนรบกวนการประกอบกิจวัตรประจำวัน
- รักษาด้วยยา และทำกายภาพบำบัดแล้วไม่ประสบความสำเร็จ
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
- งดสูบบุหรี่ก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อช่วยป้องกันการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ และภาวะแทรกซ้อนจากระบบไหลเวียนเลือด การติดเชื้อของแผลและภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ
- แจ้งแพทย์กรณีมีโรคประจำตัว หรือทานยาบางชนิด เช่น ยาละลายลิ่มเลือด ยาต้านการแข็งตัวของเกล็ดเลือด เพื่อประเมินความพร้อม และพิจารณาว่าจำเป็นต้องหยุดยาเหล่านี้ก่อนการผ่าตัดหรือไม่
แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง
คุกกี้และความเป็นส่วนตัว
เมื่อคลิก “อนุญาตคุกกี้ทั้งหมด” หมายความว่าผู้ใช้งานยอมรับที่จะเปิดการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ เพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและเต็มประสิทธิภาพ เพื่อเปิดใช้คุณสมบัติของโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการทำการตลาดและการโฆษณา รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลการใช้งานกับพาร์ทเนอร์โซเชียลมีเดีย