โรคหลอดเลือดสมอง
โรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้นเหตุของอาการอัมพฤกษ์ อัมพาต และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของคนไทยเป็นอันดับ 3 รองจากโรคมะเร็งและโรคหัวใจโดยเฉพาะในเพศชาย พบมากในผู้มีอายุ 45 ปีขึ้นไป
โรคหลอดเลือดสมองมี 2 รูปแบบ คือ
- โรคหลอดเลือดสมองแตก พบประมาณ 20% ทำให้มีเลือดออกในสมอง ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญคือ ความดันโลหิตสูง หรือหลอดเลือดโป่งพอง
- โรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน พบประมาณ 80% เกิดจากการเปลี่ยนแปลงที่ผนังหลอดเลือดจนส่งผลให้หลอดเลือดตีบลง เช่น มีไขมันและหินปูนมาพอกตัวที่ผนังหลอดเลือด หรือเกิดจากลิ่มเลือดจากที่อื่นมาอุดตัน เช่น ลิ่มเลือดจากหัวใจ โรคนี้จะทำให้เกิดอาการอัมพฤกษ์อัมพาตเฉียบพลัน ผู้ป่วยอาจสูญเสียความสามารถในการพูดและหรือการมองเห็น
หากมีอาการดังต่อไปนี้ต้องรีบมาโรงพยาบาลทันที ห้ามรอดูอาการ ยิ่งเร็วมากเท่าไหร่จะลดความพิการได้มากเท่านั้น
- มีอาการอ่อนแรงหรือชา ข้างใดข้างหนึ่งของร่างกาย
- ตามัวหรือมองไม่เห็นทันทีทันใด โดยเฉพาะเป็นข้างเดียว
- ปวดศีรษะฉับพลันชนิดไม่เคยเป็นมาก่อน
- พูดตะกุกตะกัก ลิ้นแข็ง พูดไม่ชัด
- สับสน ถามตอบไม่เข้าใจ
- ชักเกร็งหมดสติ หายใจไม่สม่ำเสมอ ถ้าช่วยไม่ทันอาจเสียชีวิตได้
อาการเตือนของภาวะสมองขาดเลือดนี้ อาจเกิดขึ้นซีกใดซีกหนึ่งของร่างกายหรือเกิดทั้ง 2 ซีกพร้อมกันได้ หรือใช้หลักการสังเกตอาการของโรคหลอดเลือดสมอง Stroke คือ F A S T
ปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง
- ความดันโลหิตสูง
- การสูบบุหรี่
- โรคเบาหวาน
- โรคหัวใจ
- ไขมันในเลือดสูง
- อายุมาก
- ความเครียด
- ความอ้วน
- ขาดการออกกำลังกาย
- การดื่มสุรา
การตรวจพิเศษเพื่อการวินิจฉัยโรคหลอดเลือดสมอง
- ตรวจเลือดเพื่อหาสาเหตุต่างๆ
- ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
- เอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง - CT Scan
- ตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า - MRI
การรักษาโรคหลอดเลือดสมอง
การรักษาขึ้นอยู่กับชนิด และความรุนแรง ระยะเวลาที่มีอาการ ถ้ามารับการรักษาเร็วเท่าไหร่ความพิการ และอัตราตายจะลดลงเท่านั้น
เป้าหมายการรักษา
- ควบคุมความดันโลหิต ≤ 140/80 mmHg
- ควบคุมระดับไขมันในเลือด แอลดีแอล (LDL < 100 mg/dL)
- ควบคุมระดับน้ำตาลสะสมในเลือด (Hb A1C) ≤ 7 %
- ผู้ป่วยที่สมองขาดเลือดจากการมีลิ่มเลือดมาอุดหลอดเลือดสมอง จะได้รับการรักษาดังนี้
- รับยาที่ช่วยละลายลิ่มเลือด ยาจะช่วยเปิดเส้นเลือดให้หายอุดตัน
- รับยาที่ช่วยป้องกันการเกิดลิ่มเลือดในอนาคต จะเป็นการป้องกันสมองขาดเลือดในอนาคต
- ผู้ป่วยที่สมองขาดเลือดจากการที่หลอดเลือดสมองแตกทำให้มีเลือดออก จะได้รับการรักษาดังนี้
- ต้องรับการรักษาเพื่อลดการเสียหายของเนื้อสมองจากการที่เลือดออกภายในและรอบๆ เนื้อสมอง
- หยุดยาที่ทำให้เลือดออกง่าย หรือลดขนาดยาลง
- ได้รับการผ่าตัดเพื่อเข้าไปซ่อมหลอดเลือดและหยุดเลือดออก (แต่อาจไม่สามารถทำได้ทุกราย)
- การรักษาเพื่อควบคุมปัจจัยเสี่ยงร่วมกัน เช่น รักษาโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และภาวะไขมันในเลือดสูง
- การทำกายภาพบำบัด เพื่อฟื้นฟูสภาพของกล้ามเนื้อที่อ่อนแรง หรือข้อติดแข็ง
- การรักษาโรคแทรกซ้อนที่มักจะเกิดในผู้ป่วยอัมพาตและนอนบนเตียงนานๆ เช่น ปวดบวม แผลกดทับ ท้องผูก แผลในกระเพาะอาหาร
การป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง และการป้องกันไม่ให้เกิดการกลับเป็นซ้ำ
- ออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ 30 นาที ประมาณ 5 วันต่อสัปดาห์
- ควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสม อย่าให้อ้วน
- งดสูบบุหรี่และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยง เช่น ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ภาวะไขมันในหลอดเลือดสูง ถ้าพบปัจจัยเสี่ยงต้องรีบรักษา และมาพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
- ในกรณีมีปัจจัยเสี่ยงอยู่แล้วต้องรักษาอย่างสม่ำเสมอ ห้ามหยุดยาเองโดยเด็ดขาด
- ถ้าเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบและอุดตัน ต้องรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำ ไม่หยุดยาเองโดยเด็ดขาด
- รับประทานอาหารไขมันน้อย และรสไม่เค็ม เพื่อป้องกันไขมันในเลือดสูงและความดันโลหิตสูง ควรรับประทานผักผลไม้เพิ่มขึ้น
- ควรศึกษาหาความรู้เรื่องโรคหลอดเลือดสมอง อาการเตือน และแนวทางการเข้ารับการรักษาได้อย่างฃทันท่วงที
- ถ้ามีปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองหรือผู้สูงอายุ ควรมีญาติหรือผู้ดูแลที่รู้เรื่องโรคหลอดเลือดสมองและวิธีการเข้ารับการรักษา เพราะถ้ามีอาการรุนแรงผู้ป่วยอาจไม่สามารถช่วยตัวเองได้
- ถ้ามีอาการให้รีบนำส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง
โปรแกรมตรวจสุขภาพทั่วไป
9 โปรแกรมตรวจสุขภาพที่เหมาะกับคุณที่เลือกได้
คุกกี้และความเป็นส่วนตัว
เมื่อคลิก “อนุญาตคุกกี้ทั้งหมด” หมายความว่าผู้ใช้งานยอมรับที่จะเปิดการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ เพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและเต็มประสิทธิภาพ เพื่อเปิดใช้คุณสมบัติของโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการทำการตลาดและการโฆษณา รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลการใช้งานกับพาร์ทเนอร์โซเชียลมีเดีย