ผู้ป่วยโรคทางระบบประสาทและสมอง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคซึมเศร้า ไมเกรน ย้ำคิดย้ำทำ นอนไม่หลับ โรคใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก โรคพาร์กินสัน ส่วนใหญ่จะได้รับการรักษาด้วยยาร่วมกับการทำกายภาพบำบัดควบคู่กัน ซึ่งผู้ป่วยดังกล่าวจำนวนหนึ่งไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยวิธีเดิมๆ บางรายยังมีอาการแขนขาอ่อนแรงอยู่ เป็นต้น
ปัจจุบันจึงได้มีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ คือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า : Transcranial Magnetic Stimulation ; TMS มาใช้รักษาและฟื้นฟูการทำงานของสมองและระบบประสาท ควบคู่กับการรักษาแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นวิธีการรักษาที่ง่าย ไม่เป็นอันตราย ไม่เจ็บปวด ไม่ต้องดมยาสลบ และการรักษาจะได้ผลดียิ่งขึ้นหากผู้ป่วยรับการรักษาอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์
หลักการรักษาด้วย TMS
เป็นการส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเข้าไปกระตุ้นสมอง ช่วยเร่งการเชื่อมต่อกันใหม่ของเซลล์สมอง และปรับการทำงานของสารสื่อประสาทในสมอง จึงทำให้เซลล์สมองสั่งการหรือทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังสามารถทำการกระตุ้นในระบบประสาทส่วนปลาย เช่น ไขสันหลัง เส้นประสาท กล้ามเนื้อ ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและปรับเปลี่ยนการทำงานในส่วนนั้นๆ ได้เช่นกัน
TMS เหมาะกับผู้ป่วยโรคอะไร ? ต้องทำกี่ครั้ง ?
- โรคหลอดเลือดสมอง : Stroke ช่วยฟื้นฟูอาการดังนี้
- ฟื้นฟูภาวะอ่อนแรงของกล้ามเนื้อแขนขา โดยช่วยให้อาการอ่อนแรงดีขึ้น และลดการเกร็ง
- ฟื้นฟูอาการกลืนผิดปกติ ช่วยเพิ่มความสามารถในการกลืนได้ดีขึ้น จึงช่วยลดปัญหาการสำลัก
- ฟื้นฟูอาการพูดลำบาก ช่วยเพิ่มความสามารถในการสื่อสารให้ดีขึ้น
แนะนำรักษาครั้งละ 30-60 นาที ความถี่ 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์*
- โรคซึมเศร้า : Depression ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด ช่วยลดอาการซึมเศร้า ลดความวิตกกังวล
แนะนำรักษาครั้งละ 15-30 นาที ความถี่ 5 ครั้งต่อสัปดาห์ ต่อเนื่อง 4-6 สัปดาห์*
- ไมเกรน : Migraine รักษาอาการปวดหัวไมเกรน ปวดหัวเรื้อรัง
แนะนำรักษาครั้งละ 30-60 นาที
- โรคอื่นๆ
- ย้ำคิดย้ำทำ
- นอนไม่หลับ
- โรคใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก
- โรคพาร์กินสัน
*จำนวนครั้งต่อชุดการรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค ดังนั้นเพื่อให้ผลการรักษาที่ดี ควรทำการรักษาอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์
ขั้นตอนการรักษา
- แพทย์ด้านอายุรกรรมประสาทและสมอง จะทำการตรวจวินิจฉัยและประเมินอาการอย่างละเอียดก่อนทำการรักษา อาทิเช่น หาตำแหน่งและกำหนดค่าที่ใช้ในการกระตุ้น แนะนำข้อควรระวังในการรักษาแก่ผู้ป่วยและญาติ กำหนดความถี่ แนะนำความถี่ในการรักษาต่อเนื่องแก่ผู้ป่วย รวมถึงคอยติดตามเป็นระยะตลอดขั้นตอนการรักษา
- แพทย์หรือเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการอบรมอย่างเชี่ยวชาญ เมื่อทราบแผนการรักษาแล้ว จะนำหัวส่งสัญญาณแม่เหล็กมาวางที่ศีรษะ แขนขา หรือตำแหน่งที่เหมาะสม ซึ่งขณะทำอาจมีการกระตุกของกล้ามเนื้อได้ แต่ผู้ป่วยจะไม่รู้สึกเจ็บปวด และสามารถกลับมาทำเป็นครั้งๆ โดยไม่ต้องนอนโรงพยาบาล
ข้อดีของการรักษาด้วย TMS
- ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
- ไม่เจ็บปวด ไม่ต้องพักฟื้น
- ช่วยลดปริมาณและผลข้างเคียงจากการกินยา
- ผู้ป่วยจะรู้สึกอาการปวดลดลงทันทีหลังการรักษาครั้งแรก
- เมื่อรักษาอย่างต่อเนื่อง ความรุนแรงของอาการปวดหัวจะลดลงจนถึงหายสนิท และยังช่วยป้องกันไม่ให้เป็นซ้ำ
ข้อห้ามในการรักษาด้วย TMS
- ไม่ทำในผู้ป่วยที่เคยมีอาการชักมาก่อน
- ไม่ทำในผู้ป่วยที่มีโลหะรูปวงแหวนฝังอยู่ในตัว
- ไม่ทำในผู้ป่วยที่มีเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ฝังในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ เครื่องหูเทียมไฟฟ้าชนิดฝังในตัว เป็นต้น
* ราคาตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธ.ค. 2567
คุกกี้และความเป็นส่วนตัว
เมื่อคลิก “อนุญาตคุกกี้ทั้งหมด” หมายความว่าผู้ใช้งานยอมรับที่จะเปิดการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ เพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและเต็มประสิทธิภาพ เพื่อเปิดใช้คุณสมบัติของโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการทำการตลาดและการโฆษณา รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลการใช้งานกับพาร์ทเนอร์โซเชียลมีเดีย