5 โรคฮิตของคนติดจอมือถือ ‼

1.โรคซึมเศร้าจากโซเชียลมีเดีย

ยุคปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโซเชียลมีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตมาก บางคนติดหนัก ต้องเช็ค ก้มๆ จ้องจอ จิ้มๆ แชทตลอดเวลา จนกลายเป็นเพิกเฉยต่อโลกความจริง โซเชียลมีเดีย นั้นไม่ได้เป็นจริงทุกเรื่อง แต่หลายคนเข้าใจว่ามันจริง เรามักสนใจแต่คนที่มีชีวิตสมบูรณ์แบบ โพสต์แต่เรื่องราวดีๆ เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับตัวเอง จึงกลายเป็นการบั่นทอนจิตใจ รู้สึกโดดเดี่ยว เศร้า ตัดพ้อต่อชีวิต

โดยเฉพาะเมื่อรู้สึกหว่าเหว่ ก็จะมีทัศนคติต่อตัวเองในแง่ลบ ใครมีอาการเหล่านี้ รีบออกห่างจากโซเชียลมีเดียโดยด่วน

2.ละเมอแชท

อาการนี้หนักเลยถึงกับตามไปหลอกหลอนในฝัน ถึงแม้จะนอนหลับถ้าได้ยินเสียงแชทต้องหยิบมือถือมาพิมพ์ตอบ เหมือนคนละเมอนั่นเอง

สาเหตุก็มาจากการ ติดสมาร์ทโฟนมากเกินไป กระทบมาถึงระบบการทำงานของร่างกาย สาเหตุการเกิดโรคร้าย โรคอ้วน หรือแม้แต่การเก็บมาฝัน ฝันร้าย กระทบต่อการเรียนและการทำงานอย่างมาก

3.โรควุ้นสายตาเสื่อม

สายตาเราปกติก็ใช้งานหนักอยู่แล้ว ถ้ายิ่งต้องมาจ้องหน้าจอ บางคนปิดไฟเล่นมือถือ ก็ยิ่งทำให้ดวงตาใช้งานหนักไปอีกทวีคูณบางคนปวดตาแต่คิดว่าไม่เป็นอะไรหรอก แต่หากปล่อยไว้เป็นเวลานานๆ จนมองเห็นเป็นหยากไย่ หรือเส้นวนไปวนมาเหมือนยุง ปัดเท่าไหร่ก็ไม่โดนซักที เพราะนั่นคือ โรควุ้นสายตาเสื่อม

ปัจจุบันพบมากขึ้นในคนอายุน้อยๆ สาเหตุหลักๆจากการติดจอมากเกินไป วิธีป้องกันไม่ยาก แค่ออกห่างจากหน้าจอ พักสายตาและมองออกไปที่ไกลๆ บ้าง

4.โรคขาดมือถือไม่ได้

ก็คือโรคการกลัวไม่มีมือถือใช้ ซึ่งเป็น โรคทางจิตเวชประเภทหนึ่ง ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มวิตกกังวล หมกมุ่นอยู่กับการเช็คมือถือตลอดเวลา ซึ่งถ้าหากจู่ๆเกิดไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต หรือแบตหมด ก็จะรู้สึกหงุดหงิด กระวนกระวาย นั่นแสดงว่า คุณกำลังมีอาการเป็น โรคโนโมโฟเบีย ต้องระวังปัญหาสุขภาพมากๆ โดยเฉพาะนิ้วล็อค ปวดตา ปวดเมื่อยคอ บ่าไหล่ หมอนรองกระดูกเสื่อมก่อนวัยอันควร

5.โรคสมาร์ทโฟนเฟซ

เกิดจากที่เราก้มจ้องมองหน้าจอมือถือหรือแท็บเล็ตเป็นเวลานานเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อคอเกิดการเกร็ง ทำให้ไปเพิ่มแรงกดดันที่แก้ม ทำให้เส้นใยอิลาสติกบนใบหน้ายืดจนแก้มบริเวณกรามย้อยลงมา กล้ามเนื้อตรงมุมปากจะตกไปตรงคางด้วย จนใบหน้าเราดูแปลกไป 🐸