degrees call-center-agent ambulance stethoscope hours-phone-service wifi-connection-signal-symbol drink-water water-heater bowl-in-a-microwave freezer wardrobe computer cutlery table sofa newspaper cd-player television bathroom-furniture toilet patient-in-hospital-bed hospital-bed

ตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่จากการตรวจอุจจาระ

Cov Package Stool


ตรวจอะไรบ้างในอุจจาระ ?

1. ตรวจหาเลือดแฝงในอุจจาระ (Fecal Occult Blood : FOB)

ตรวจได้ง่ายจากอุจจาระ ราคาถูก รู้ผลภายใน 1 ชั่วโมง ไม่ต้องงดน้ำงดอาหาร แต่มีข้อจำกัดคือ มีความไวในการตรวจพบระยะก่อนมะเร็งค่อนข้างต่ำ (<65%) และมีโอกาสเกิด False Negative (มีเลือดแฝงในอุจจาระ แต่ให้ผลการทดสอบเป็นลบ) ในผู้ป่วยที่ยังไม่มีเลือดออก

2.ตรวจหา Transferrin

เป็นโปรตีนที่พบในเลือด ถ้าตรวจพบในอุจจาระในปริมาณที่สูงกว่าปกติ บ่งชี้ว่าอาจมีเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร

3.ตรวจหา Calprotectin

เป็นโปรตีนในเลือดที่ถูกขับออกมาทางอุจจาระเมื่อเกิดการอักเสบในระบบทางเดินอาหาร ถ้ามีระดับสูงบ่งชี้ถึงการอักเสบในลำไส้ที่ชัดเจน มักพบในผู้ป่วยลำไส้อักเสบเรื้อรัง การติดเชื้อในลำไส้ หรือมะเร็งลำไส้ใหญ่

4.ตรวจหา Lactoferrin

โปรตีนในเลือดซึ่งถ้าพบระดับสูงในอุจจาระ สามารถใช้เป็นตัวบ่งชี้ของการอักเสบในระบบทางเดินอาหารได้เช่นเดียวกับ Calprotectin


การตรวจอุจจาระแบบ FOB ร่วมกับตรวจหาระดับ Transferrin, Calprotectin และ Lactoferrin เป็นการเพิ่มตรวจหาการอักเสบ (Inflammation screening ; Stool Quad Test) ซึ่งจะทำให้เพิ่มความไวในการตรวจพบติ่งเนื้อระยะก่อนเป็นมะเร็งสูงขึ้น (67-76%) ทำให้สามารถรักษาได้ด้วยวิธีการผ่าตัดแบบส่องกล้อง แผลเล็กและฟื้นตัวเร็ว
แต่ก็อาจมีโอกาสเกิด False Negative ในผู้ป่วยที่ใช้ยาต้านอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs)


ตรวจคัดกรองโรคอะไรได้บ้าง ?

โรคแผลในกระเพาะอาหาร โรคลำไส้อักเสบติดเชื้อ ถุงผนังลำไส้ใหญ่โป่งพอง ริดสีดวงทวารหนัก ติ่งเนื้อและเนื้องอกที่ไม่ใช่มะเร็ง หรือเนื้องอกชนิดที่เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ หรือมะเร็งทวารหนัก เป็นต้น


ตรวจคัดกรองโรคอะไรได้บ้าง ?

โรคแผลในกระเพาะอาหาร โรคลำไส้อักเสบติดเชื้อหรือเป็นแผล ถุงผนังลำไส้ใหญ่โป่งพอง ริดสีดวงทวารหนัก ติ่งเนื้อและเนื้องอกที่ไม่ใช่มะเร็ง หรือเนื้องอกชนิดที่เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ หรือมะเร็งทวารหนัก เป็นต้น

ใครบ้างที่ควรตรวจ ?

  • ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป
  • ผู้ที่ท้องอืด ท้องผูกเป็นประจำ หรือท้องผูกสลับท้องเสีย ถ่ายมีมูกเลือดปน
  • ปวดท้องบ่อยๆ จุกเสียด แน่น ปวดบิด
  • มีภาวะลำไส้อักเสบเรื้อรัง
  • ขนาดของอุจจาระที่ลีบลง
  • น้ำหนักลดหรือภาวะซีดโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นเป็นติ่งเนื้องอก หรือเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
  • ผู้ที่ต้องการตรวจคัดกรองเพื่อหาความผิดปกติในระบบทางเดินอาหาร ควรตรวจเป็นประจำทุกปีพร้อมกับการตรวจสุขภาพ

การแปลผลตรวจ

  1. ผลลบ (Negative) คือ ไม่พบเลือดในอุจจาระ ไม่ได้แปลว่าปลอดภัยจากโรคในระบบทางเดินอาหาร หรือมะเร็งลำไส้ใหญ่ 100% แนะนำให้ตรวจเป็นประจำทุกปี หรือหากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์
  2. ผลบวก (Positive) คือ พบเลือดในอุจจาระ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ แพทย์อาจจำเป็นต้องตรวจเพิ่มด้วยวิธีส่องกล้องตรวจทางเดินอาหารส่วนบน (Gastroscopy, EGD) หรือ ส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy) เพื่อหาสาเหตุ และเข้าสู่กระบวนการรักษาได้อย่างรวดเร็ว

แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง

© 2025 โรงพยาบาลขอนแก่นราม