degrees call-center-agent ambulance stethoscope hours-phone-service wifi-connection-signal-symbol drink-water water-heater bowl-in-a-microwave freezer wardrobe computer cutlery table sofa newspaper cd-player television bathroom-furniture toilet patient-in-hospital-bed hospital-bed

โนโรไวรัส เป็นเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของการระบาดของการติดเชื้อท้องเสีย ที่ไม่ใช่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ที่พบบ่อยที่สุดในโลก

โนโรไวรัส (Norovirus)

โนโรไวรัส (Norovirus)

เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดการอักเสบของระบบทางเดินอาหาร พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ทำให้เกิดอาการท้องเสียและอาเจียน โรคนี้ติดต่อกันได้ง่ายแม้ร่างกายจะได้รับเชื้อในปริมาณเล็กน้อย และเชื้อยังทนต่อความร้อนและน้ำยาฆ่าเชื้อได้ดี จึงสามารถแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันเชื้อโนโรไวรัส

โนโรไวรัส เป็นเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของการระบาดของการติดเชื้อท้องเสีย ที่ไม่ใช่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ที่พบบ่อยที่สุดในโลก

การติดต่อของเชื้อโนโรไวรัส

  • รับประทานอาหารและน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรค
  • สัมผัสผู้ป่วยที่ติดเชื้อโนโรไวรัสโดยตรง
  • สัมผัสสิ่งของที่มีเชื้อโนโรไวรัส เช่น ของเล่น ของใช้ ภาชนะ
  • เด็กอมนิ้ว ดูดนิ้วหลังจับสิ่งของ จึงเกิดการระบาดได้ง่ายในสถานรับเลี้ยงเด็ก

อาการที่พบได้บ่อย หลังได้รับเชื้อภายใน 24-28 ชม.

  1. คลื่นไส้ อาเจียนค่อนข้างรุนแรง
  2. ถ่ายเหลวเป็นน้ำ
  3. ปวดท้อง หรือปวดเกร็งที่หน้าท้อง
  4. อาจมีไข้ต่ำร่วมด้วย บางรายมีไข้สูง 38-39 องศาเซลเซียสได้
  5. ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตัว

ผู้ป่วยเด็กที่ติดเชื้อจะมีอาการเกิดขึ้นอย่างฉับพลันภายใน 24-48 ชม.หลังรับเชื้อ ถ้าเด็กมีอาการรุนแรง ถ่ายตลอดเวลา จะทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ เกิดอาการช็อกได้ ต้องรีบนำส่งรพ.ทันที

อาการที่ควรรีบนำส่งรพ.โดยด่วน

  • ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำจำนวนมาก อาเจียน กินไม่ได้ มีไข้สูง
  • ปัสสาวะออกน้อย ซึม กระสับกระส่าย ปลายมือปลายเท้าเย็น ชีพจรเบาเร็ว อาการเหล่านี้แสดงออกถึงความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด

การตรวจวินิจฉัยและการรักษา

การตรวจเชื้อโนโรไวรัส โดยการเก็บตัวอย่างอุจจาระส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ

แพทย์จะให้การรักษาตามอาการเช่น ให้น้ำเกลือ ยาลดไข้ พักผ่อนมากๆ และหากเด็กมีภูมิต้านทานที่ดี อาการก็จะดีขึ้น และหายได้เองภายใน 2-3 วัน

การป้องกันโนโรไวรัส

  • ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่ และน้ำ
  • ล้างผักผลไม้สดให้สะอาด ทำหอยนางรมหรือหอยชนิดอื่นให้สุกก่อนกิน
  • ไม่ใช้แก้วน้ำ ช้อน หรือภาชนะร่วมกัน
  • ไม่สัมผัสอุจจาระ ปัสสาวะของผู้ป่วย และผู้ป่วยต้องงดประกอบอาหารป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น เพราะเชื้อโนโรไวรัสสามารถอยู่ในอุจจาระได้นานถึง 2 สัปดาห์ แม้ผู้ป่วยจะไม่มีอาการแล้วก็ตาม
  • เด็กป่วยควรงดไปโรงเรียน


แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง

© 2025 โรงพยาบาลขอนแก่นราม