degrees call-center-agent ambulance stethoscope hours-phone-service wifi-connection-signal-symbol drink-water water-heater bowl-in-a-microwave freezer wardrobe computer cutlery table sofa newspaper cd-player television bathroom-furniture toilet patient-in-hospital-bed hospital-bed
label

อาการปวดท้อง และตำแหน่งที่ปวดก็สามารถบอกถึงโรคหรืออาการผิดปกติของอวัยวะ และการรักษาที่แตกต่างกันด้วย มาดูกันค่ะว่าอาการปวดท้องตำแหน่งไหนบอกโรคอะไร?

ตำแหน่งปวดท้องบอกโรคได้

ตำแหน่งปวดท้อง บอกโรคได้

อาการปวดท้องใครๆ ก็เป็นได้ บางท่านปวดท้องเป็นประจำซื้อยามาทานก็หายจึงละเลยการใส่ใจสุขภาพ หากมีอาการปวดท้องลักษณะต่อไปนี้ควรรีบพบแพทย์

  1. ปวดนานมากกว่า 6 ชั่วโมงแล้วอาการเป็นมากขึ้น
  2. ปวดจนกินอาหารไม่ได้
  3. ปวดท้องและอาเจียนอย่างมาก มากกว่า 3-4 ครั้ง
  4. ปวดท้องมากขึ้นเมื่อขยับตัว
  5. ปวดที่บริเวณท้องน้อยด้านขวา
  6. ปวดท้องรุนแรง นอนไม่ได้
  7. ปวดร่วมกับเลือดออกจากช่องคลอด
  8. ปวดท้องมีไข้ร่วมด้วย

นอกจากนี้ อาการปวดท้อง และตำแหน่งที่ปวดก็สามารถบอกถึงโรคหรืออาการผิดปกติของอวัยวะและการรักษาที่แตกต่างกันด้วย มาดูกันค่ะว่าอาการปวดท้องตำแหน่งไหนบอกโรคอะไร?

ตำแหน่ง 1 ปวดบริเวณใต้ชายโครงขวา

เป็นจุดของตับและถุงน้ำดี หากกดแล้วเป็นก้อนแข็งๆ บวกกับอาการตัวเหลือง หมายถึงความบกพร่องของตับและถุงน้ำดี หากปวดมากควรรีบพบแพทย์

ตำแหน่ง 2 ปวดบริเวณใต้ลิ้นปี่
  • ปวดใต้ลิ้นปี่ร่วมกับเจ็บหน้าอกหรือแน่นหน้าอก อาจจะเป็นโรคหัวใจขาดเลือด
  • ปวดเป็นประจำเวลาหิวหรืออิ่ม อาจเกี่ยวกับโรคกระเพาะอาหาร หากปวดรุนแรงหรืออาเจียนด้วยอาจเป็นตับอ่อนอักเสบ
  • หากคลำเจอก้อนเนื้อขนาดใหญ่ และแข็งแสดงว่าตับโต หรือหากคลำได้ก้อนสามเหลี่ยมแบนเล็กๆ อาจเป็นกระดูกลิ้นปี่
  • หากอืดแน่นท้องเป็นๆ หายๆ เป็นเวลานาน อาจเป็นนิ่วในถุงน้ำดี
ตำแหน่ง 3 ปวดบริเวณชายโครงซ้าย

จะตรงกับตำแหน่งของม้าม อย่ามัวรีรอรีบไปพบแพทย์

ตำแหน่ง 4,6 ปวดบริเวณบั้นเอวขวาหรือซ้าย
  • ตำแหน่งตรงกับท่อไตพอดี
  • ปวดเอวหรือมีปัสสาวะเป็นเลือดอาจจะเป็นนิ่วที่ไต จะเป็นข้างใดข้างหนึ่งหรือสองข้างก็ได้ ซึ่งจะมีอาการปวดมากจนเหงื่อออก
  • ปวดร้าวถึงต้นขา การเริ่มต้นของการเป็นนิ่วในท่อไต
  • อาการปวดร่วมกับปวดหลัง มีไข้ หนาวสั่น ปัสสาวะขุ่น เป็นกรวยไตอักเสบ
  • คลำเจอก้อนเนื้อรีบไปพบแพทย์
ตำแหน่ง 5 ปวดบริเวณรอบสะดือ

ตรงกับตำแหน่งลำไส้เล็ก มักจะมีอาการปวดบิด ถ่ายเหลว คลื่นไส้ อาเจียน หากกดแล้วปวดมากอาจเป็นไส้ติ่งอักเสบ ปวดจนทนไม่ไหวให้พบแพทย์ทันที

ตำแหน่ง 7 ปวดบริเวณท้องน้อยขวา
  • เป็นตำแหน่งไส้ติ่ง ท่อไต ปากมดลูก และรังไข่ขวา
  • ปวดเกร็งเป็นระยะๆ แล้วร้าวมาที่ต้นขา เป็นอาการกรวยไตอักเสบ หรือนิ่วท่อไต ควรรีบพบแพทย์
  • ปวดเสียด บีบ ตลอดเวลา กดแล้วเจ็บมากบริเวณท้องน้อยด้านขวาอาจจะเป็นไส้ติ่งอักเสบ
  • ปวดร่วมมีไข้สูง มีตกขาว อาการของปีกมดลูกอักเสบ
  • คลำแล้วเจอก้อนเนื้อ อาการก้อนไส้ติ่งอักเสบ หรือรังไข่ผิดปกติ
ตำแหน่ง 8 ปวดท้องน้อย
  • ตรงตำแหน่งกระเพาะปัสสาวะ และมดลูก
  • ปัสสาวะกะปริบกะปรอย ปวดเวลาปัสสาวะ อาจเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ หรือเป็นนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
  • ปวดท้องน้อย มีไข้สูง ตกขาวมีกลิ่นเหม็น อาจจะเป็นมดลูกอักเสบ
  • ปวดเกร็งเวลามีประจำเดือน มีอาการปวดเรื้อรัง แสดงว่ามดลูกมีปัญหาควรรีบพบแพทย์
ตำแหน่ง 9 ปวดท้องน้อยซ้าย
  • ตำแหน่งปีกมดลูกและท่อไต รังไข่ด้านซ้าย ลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย
  • ปวดเกร็งเป็นระยะๆ ร้าวมาที่ต้นขา เป็นนิ่วในท่อไต
  • ปวดร่วมกับมีไข้ หนาวสั่น และมีตกขาว อาการของมดลูกอักเสบ
  • ปวดร่วมกับถ่ายอุจจาระผิดปกติ เป็นอาการของลำไส้ใหญ่อักเสบ
  • คลำพบก้อนร่วมกับอาการท้องผูกเป็นประจำ เห็นอุจจาระมีมูกปนเลือด ท้องผูกสลับกับท้องเสีย น้ำหนักลด อาจเป็นอาการเนื้องอกในลำไส้

อาการปวดท้องไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย แม้ว่าจะปวดนิดเดียวก็ไม่ควรละเลย รักสุขภาพรักตัวเองต้องคอยหมั่นสังเกตตัวเองอยู่เสมอ หากเกิดอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ ถ้าปล่อยเรื้อรังอาจจะสายเกินแก้ได้นะคะ


แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง

© 2024 โรงพยาบาลขอนแก่นราม