degrees call-center-agent ambulance stethoscope hours-phone-service wifi-connection-signal-symbol drink-water water-heater bowl-in-a-microwave freezer wardrobe computer cutlery table sofa newspaper cd-player television bathroom-furniture toilet patient-in-hospital-bed hospital-bed

 วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ชนิด 9 สายพันธุ์


วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก หรือวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส HPV

เชื้อไวรัสเอชพีวี (Human Papillomavirus : HPV) เป็นเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อบริเวณเยื่อบุอวัยวะเพศที่สำคัญ

โดยอาจแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ สายพันธุ์ที่ทำให้เกิดโรคที่มีความเสี่ยงต่ำได้แก่ สายพันธุ์ 6 และ 11 ก่อให้เกิดโรคหูดหงอนไก่ที่อวัยวะเพศและหูดที่กล่องเสียงในเด็ก

ส่วนอีกประเภทคือสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูงได้แก่ สายพันธุ์ 16, 18, 31, 33 และ 45 โดยสายพันธุ์ 16, 18 เป็นสาเหตุหลักของรอยโรคก่อนมะเร็งและมะเร็งปากมดลูกในสตรีถึง 70%

การติดเชื้อนี้ในธรรมชาติไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์อื่นได้และไม่ทำให้ภูมิต้านทานขึ้นสูงพอที่จะป้องกันการติดเชื้อซ้ำได้ วัคซีนนี้บางครั้งจึงเรียกว่า "วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก"

วัคซีนเอชพีวีในประเทศไทยมีด้วยกัน 2 ชนิด คือ

  1. วัคซีนชนิด 2 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ 16 และ 18 (CervarixTM)การให้วัคซีนจะให้ทั้งหมด 3 ครั้ง คือที่ 0, 1 และ 6 เดือน
  2. วัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ 6, 11, 16, และ 18 (GardasilTM) การให้วัคซีนจะให้ทั้งหมด 3 ครั้ง คือที่ 0, 2 และ 6 เดือน

การให้วัคซีนจะแนะนำในผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 9-45 ปี ส่วนบางประเทศอาจพิจารณาให้วัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์ในผู้ชาย เพื่อป้องกันโรคหูดหงอนไก่

แต่ในประเทศไทยยังแนะนำให้ในเพศหญิงก่อน และดีที่สุดควรให้ในหญิงก่อนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก และแนะนำให้ในเด็กหญิงอายุ 9-12 ปีขึ้นไป (ในเด็กอายุน้อยกว่า 15 ปี สามารถให้เพียง 2 ครั้ง ห่างกัน 6 เดือน)


  • วัคซีน HPV 9 สายพันธุ์ (GARDASIL 9) ประกอบด้วยสายพันธุ์ 6, 11, 16, 18, 31, 33, 45, 52 และ 58
  • รูปแบบการฉีดคือ อายุ 9-14 ปี ฉีด 2 เข็ม และอายุ 15 ปีขึ้นไป ฉีด 3 เข็ม
  • เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ควรฉีดวัคซีนในช่วงเด็ก หรือก่อนมีเพศสัมพันธ์ เพราะหากได้รับเชื้อมาก่อนแล้วจะไม่สามารถป้องกันโรคจากเชื้อนั้นๆ ได้

หลายคนเคยรู้จักวัคซีนป้องกันมะเร็งปากดลมดลูก หรือวัคซีน HPV ชนิด 2 สายพันธุ์ และ 4 สายพันธุ์กันแล้ว เป็นเรื่องน่ายินดีที่วัคซีน HPV 9 สายพันธุ์ได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว สำหรับท่านที่สนใจฉีดวัคซีน HPV 9 สายพันธุ์ ขอเชิญศึกษาข้อมูลกันได้เลย

รู้จักวัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์ (GARDASIL 9)

วัคซีนป้องกันไวรัสเอชพีวี 9 สายพันธุ์ ชื่อทางการค้าคือ GARDASIL 9 เป็นวัคซีนสำหรับบุคคลอายุ 9-45 ปี เพื่อป้องกันโรคบางชนิดที่เกิดจากเชื้อไวรัสเอชพีวี (Human Papillomavirus : HPV)

ไวรัส HPV มีมากกว่า 150 สายพันธุ์ เป็นไวรัสที่เป็นสาเหตุสำคัญของการติดเชื้อที่เยื่อบุผิวและก่อโรคที่บริเวณอวัยวะเพศรวมถึงทวารหนัก ทั้งในเพศชายและหญิง

วัคซีน GARDASIL 9 ประกอบด้วยสายพันธุ์ที่ไม่ก่อให้เกิดมะเร็ง (Low risk type) แต่ทำให้เกิดโรคหูดหงอนไก่ได้ คือสายพันธุ์ 6 และ 11 และสายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดมะเร็งได้ (High risk type) ได้แก่ 16, 18, 31, 33, 45, 52 และ 58

ด้วยความที่มีจำนวนสายพันธุ์มากกว่าวัคซีน HPV ชนิดอื่นๆ จึงทำให้วัคซีน HPV 9 สายพันธุ์สามารถป้องกันโรคได้มากกว่าวัคซีน HPV ชนิดอื่นๆ นั่นเอง

วัคซีน HPV 9 สายพันธุ์กับการป้องกันโรค

วัคซีน HPV 9 สายพันธุ์ ช่วยป้องกันการเกิดโรคได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง ดังนี้

การป้องกันโรคในผู้หญิง อายุ 9-45 ปี

  • มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับ 2 ในผู้หญิงไทย
  • มะเร็งปากช่องคลอด และช่องคลอด
  • รอยโรคก่อนเป็นมะเร็งปากมดลูก ปากช่องคลอด ช่องคลอด และทวารหนัก
  • มะเร็งทวารหนัก
  • หูดที่อวัยวะเพศ

การป้องกันโรคในผู้ชาย อายุ 9-45 ปี

  • มะเร็งทวารหนัก
  • มะเร็งศีรษะและลำคอบางชนิด เช่น มะเร็งลำคอ มะเร็งบริเวณช่องปาก
  • รอยโรคก่อนเป็นมะเร็งทวารหนัก
  • หูดที่อวัยวะเพศ

สิ่งที่ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีน HPV 9 สายพันธุ์

  • กำลังตั้งครรภ์ หรือวางแผนที่จะตั้งครรภ์
  • มีปัญหาเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน เช่น โรคเอชไอวี (HIV) หรือมะเร็ง
  • รับประทานยาที่มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน
  • มีไข้สูงกว่า 37.8 องศาเซลเซียส
  • เคยมีอาการแพ้ต่อวัคซีน HPV ขนาดก่อนหน้า หรือวัคซีนชนิดอื่นๆ
  • กำลังรับประทานยารักษาโรคประจำตัว วิตามิน หรือสมุนไพรอยู่

แพทย์จะประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และช่วยตัดสินใจว่าคุณหรือบุตรหลานของคุณควรได้รับวัคซีนหรือไม่

รูปแบบการฉีดวัคซีน HPV 9 สายพันธุ์

  • อายุ 9-14 ปี ฉีดวัคซีน HPV 2 เข็ม โดยเข็มแรกฉีดได้ทันที และฉีดเข็มที่ 2 หลังจากเข็มแรก 6-12 เดือน
  • อายุ 15-45 ปี ฉีดวัคซีน HPV 3 เข็ม โดยเข็มแรกฉีดได้ทันที เข็มที่ 2 ฉีดหลังจากเข็มแรก 2 เดือน และเข็มที่ 3 ฉีดหลังจากเข็มแรก 6 เดือน

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังฉีดวัคซีน HPV 9 สายพันธุ์

ผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่ ปวดบวมแดง มีก้อนนูนบริเวณที่ฉีด ปวดหัว ไข้ คลื่นไส้ เวียนศีรษะ อ่อนเพลีย ท้องเสีย อาการปวดท้อง หรือเจ็บคอ เป็นอาการที่ไม่อันตรายและสามารถหายได้เอง

อย่างไรก็ตาม ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบทันทีหากมีอาการแพ้วัคซีน ได้แก่ หายใจลำบากหรือหายใจไม่ออก (หลอดลมหดเกร็ง) ลมพิษ หรือผื่น

เคยฉีดวัคซีน HPV 2 สายพันธุ์ หรือ 4 สายพันธุ์แล้ว จะฉีดชนิด 9 สายพันธุ์ได้หรือไม่?

ฉีดได้ โดยจะต้องเข้ารับการฉีดให้ครบจำนวนเข็มตามปกติ เพื่อกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้นต่อสายพันธุ์ที่ยังไม่เคยได้รับ และควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนว่าเคยได้รับการฉีดวัคซีนมาก่อนแล้ว

แพทย์อาจแนะนำให้ตรวจแปปสเมียร์ (Pap Smear) หรือตรวจ DNA เพื่อหาเชื้อไวรัสเอชพีวี เพราะหากเคยได้รับเชื้อมาก่อนหน้านั้นแล้ว วัคซีนจะไม่สามารถช่วยป้องกันหรือรักษาโรคจากไวรัสนั้นๆ ได้

ข้อแนะนำเพิ่มเติม

  • ผู้ที่เข้ารับวัคซีน HPV 9 สายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ยังคงจำเป็นต้องตรวจคัดกรองความเสี่ยงในการเกิดโรคอยู่ ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด หรือมะเร็งทวารหนัก
  • วัคซีน HPV ไม่สามารถรักษาการติดเชื้อไวรัสเอชพีวีในผู้ที่เคยได้รับการติดเชื้อก่อนรับการฉีดวัคซีนได้
  • สำหรับผู้ที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้วก็สามารถฉีดวัคซีน HPV ได้เช่นกัน แต่จะไม่สามารถรักษาหรือป้องกันเชื้อไวรัส HPV ที่ติดไปก่อนแล้ว ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ

หมายเหตุ - ราคาตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธ.ค. 2567

© 2024 โรงพยาบาลขอนแก่นราม