การตรวจสมรรถภาพหัวใจขณะออกกำลังกาย (Exercise Stress Test : EST)
ผู้ป่วยโรคหัวใจในภาวะปกติอาจไม่แสดงอาการใดๆ เลย จึงต้องมีการตรวจด้วยวิธีพิเศษคือ การตรวจสมรรถภาพหัวใจขณะออกกำลังกาย โดยผู้ป่วยจะติดอุปกรณ์วัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจในขณะเดินหรือวิ่งบนสายพานเพื่อให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น จากนั้นแพทย์จะอ่านผลการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ หากผู้ป่วยมีภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบหรืออุดตัน อาจมีอาการหายใจลำบาก เจ็บแน่นหน้าอก การเต้นของหัวใจจะผิดปกติ ซึ่งแพทย์จะทราบเมื่อเห็นกราฟผลการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
ใครควรตรวจ EST ?
ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อไปนี้ ควรเข้ารับการตรวจ EST เป็นประจำทุกปี เพื่อค้นหาความเสี่ยงจากโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ผู้ที่สูบบุหรี่
- อายุ 35 ปีขึ้นไป
- เป็นโรคอ้วน (BMI มากกว่า 25)
- ผู้ที่เคยมีอาการเจ็บ แน่นหน้าอก เหนื่อยผิดปกติเมื่อออกแรง
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง
- ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองตีบ
การเตรียมตัวก่อนตรวจ EST
- งดน้ำและอาหาร 2 - 3 ชั่วโมงก่อนตรวจ ป้องกันอาการจุกเสียด
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ อย่างน้อย 12 ชั่วโมง เพราะอาจรบกวนการแปลผลการทดสอบ
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือรับประทานยาใดเป็นประจำ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้า
- ผู้ที่เป็นโรคหอบหืด ควรนำยาพ่นมาด้วย
ขั้นตอนการตรวจ EST
- เจ้าหน้าที่ติดแผ่นอิเล็กโทรดที่บริเวณหน้าอก แขนและขา เพื่อวัดสัญญานคลื่นไฟฟ้าหัวใจและอัตราการเต้นของหัวใจ และติดเครื่องวัดความดันโลหิตไว้ที่ต้นแขน
- ผู้เข้ารับการตรวจเริ่มเดินช้าๆ บนสายพาน และจะเพิ่มความเร็วและความชันขึ้นทุก 3 นาที โดยระหว่างเดินสายพานเจ้าหน้าที่จะสังเกตอาการ ตรวจสอบคลื่นไฟฟ้าหัวใจ อัตราการเต้นของชีพจรและความดันโลหิตตลอดเวลา
- เมื่ออัตราการเต้นของหัวใจถึงระดับที่ต้องการ หรือผู้เข้ารับการตรวจไม่สามารถออกกำลังกายต่อได้แล้ว เจ้าหน้าที่จะหยุดสายพาน
- ใช้เวลาในการตรวจโดยรวมประมาณ 1 ชั่วโมง
ราคา 3,000 บาท *
*ราคานี้รวมค่าเครื่องมือและค่าแพทย์แล้ว*ยังไม่รวมค่าบริการ
แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง
โปรแกรมตรวจสุขภาพทั่วไป
9 โปรแกรมตรวจสุขภาพที่เหมาะกับคุณที่เลือกได้
คุกกี้และความเป็นส่วนตัว
เมื่อคลิก “อนุญาตคุกกี้ทั้งหมด” หมายความว่าผู้ใช้งานยอมรับที่จะเปิดการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ เพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและเต็มประสิทธิภาพ เพื่อเปิดใช้คุณสมบัติของโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการทำการตลาดและการโฆษณา รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลการใช้งานกับพาร์ทเนอร์โซเชียลมีเดีย