degrees call-center-agent ambulance stethoscope hours-phone-service wifi-connection-signal-symbol drink-water water-heater bowl-in-a-microwave freezer wardrobe computer cutlery table sofa newspaper cd-player television bathroom-furniture toilet patient-in-hospital-bed hospital-bed
label

ความเชื่อเกี่ยวกับโรคทางตาในทางที่ผิด

ท่านเชื่อไหมครับว่า ความเชื่อในเรื่องต่างๆ ที่เล่าหรือได้ยินกันมาตั้งแต่โบราณนั้นบางอย่างก็คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงไปมากจนกลายเป็นความงมงายขาดเหตุผล

เมื่อเอาไปถือปฏิบัติก็ทำให้เกิดผลแทรกซ้อนถึงแก่ชีวิตได้ ในทางการแพทย์เราก็มีความเชื่อในทางที่ผิดอยู่มากมายเป็นต้นว่า เมื่อเด็กไม่สบายก็ให้กินข้าวกับเกลือ ให้ลดพวกเนื้อสัตว์และผัก จนเด็กผอมเหลือแต่ซี่โครงขาดอาหารถึงขั้นตาบอดหรือเสียชีวิตได้ หรือคนป่วยที่มารับการผ่าตัดตาเอาต้อกระจกออก กลับไปบ้านก็อดอาหารทุกอย่างกินแต่ข้าวเหนียวในที่สุดแผลก็หายช้า บางรายอาจถึงกับแผลแยกก็มี

วันนี้เราจะมาพูดกันเรื่อง ความเชื่อเกี่ยวกับสุขภาพทางตาในทางที่ผิด ซึ่งควรได้รับการแก้ไขทำความเข้าใจกันเสียใหม่ ดังนี้


ความเชื่อ

พ่อแม่เด็กมักจะคิดว่าเมื่อลูกตัวเองมีปัญหาทางตามักจะปล่อยปละละเลยในตอนเล็ก และรอให้เด็กโตมากแล้วจึงค่อยพาไปพบจักษุแพทย์
"โดยคิดไปว่าเด็กเล็กเกินไปคงไม่ให้ความร่วมมือ ลูกตาก็เล็กนิดเดียวจะไปตรวจอะไรเห็น" โรคที่เป็นก็คงไม่ร้ายแรงอะไรเพราะเด็กยังเล็กอยู่

คำตอบ

โดยสัจธรรมที่ว่าไม่มีใครแก่เกินเรียนฉันใดก็ไม่มีคนไข้ที่เด็กเกินไปสำหรับหมอฉันนั้น มิฉะนั้นกุมารแพทย์คงไม่สามารถตรวจเด็กได้ ในทางตานั้นแม้เด็กจะเล็กเป็นเด็กเกิดใหม่

"จักษุแพทย์ก็สามารถตรวจได้ เนื่องจากตาเป็นอวัยวะที่มีตัวกลางโปร่งใสยอมให้แสงจากเครื่องมือตรวจส่องผ่านทะลุเข้าไปถึงจอตา ประสาทตาให้เราเห็นได้"

สำหรับการวัดสายตาในเด็กเล็กนั้นเราสามารถจะวัดได้ว่าสั้นยาวเอียงเท่าใดโดยที่เด็กไม่จำเป็นต้องอ่านตัวเลขได้เลย

ดังนั้นเด็กที่มีพฤติกรรมเหมือนคนมองไม่ค่อยเห็น เช่น ดูอะไรก็ต้องดูใกล้ผิดปกติ เดินชนของบ่อยๆ ถ้าไม่ใช่จากสายตาก็อาจจะเป็นความผิดปกติภายในลูกตา เช่น มะเร็งในลูกตาเด็กเล็ก

ความเชื่อที่ว่าเด็กเล็กๆ ไม่มีโรคร้ายแรงทางตาจึงไม่ถูกต้อง


ความเชื่อ

เด็กตาเขเข้าในแต่เล็กจะหายได้เองเมื่อเด็กโตขึ้น?

คำตอบ

ความเชื่อเรื่องนี้เป็นความจริงเพียงบางส่วนเท่านั้น เพราะเด็กตาเขเข้าในบางคนเกิดเนื่องจากสายตายาวมาก และถ้าสายตายาวลดลงเมื่อเด็กโตขึ้นก็ทำให้ตาที่เขลดลงได้

แต่เหตุการณ์เช่นนี้มีน้อย การปล่อยให้เด็กตาเขอยู่นานๆ ไม่รีบรักษาแต่เนิ่นๆ อาจทำให้ประสาทการมองเห็นใช้การไม่ได้ดี ถ้าร้ายแรงกว่านั้นก็คือ ถ้าตาที่เขเนื่องจากมะเร็งภายในลูกตาเป็นเหตุอาจทำให้เด็กเสียชีวิตได้

ฉะนั้นท่านที่มีลูกหลานตาเขแต่เล็กจึงไม่ควรนิ่งดูดายรอเวลาให้ผ่านไปด้วยความหวังว่ามันจะกลับมาตรงเอง ควรที่จะไปพบจักษุแพทย์ให้แก้ไขแต่เนิ่นๆ การแก้ไขอาจเป็นการใช้แว่นตาฝึกกล้ามเนื้อหรือผ่าตัด


ความเชื่อ

ต้อกระจกรักษาให้หายได้ด้วยยากิน และยาหยอด

คำตอบ

ต้อกระจกเป็นความขุ่นของเลนส์ตาที่อยู่ภายในลูกตา การรักษามีเพียงทางเดียวคือ ผ่าตัดหรือสลายด้วยอัลตราซาวด์ ยาหยอดอาจช่วยได้เล็กน้อยในพวกที่เป็นนิดหน่อย

แต่พวกที่เป็นพอประมาณมีทางเดียว คือรอให้จักษุแพทย์สลายต้อ และใส่เลนส์ตาเทียมให้

ผู้ป่วยมากรายกลัวการสลายต้อมากเที่ยวซื้อยาหยอดเองตามร้านขายยาจนทำให้ต้อเป็นมากกลายเป็นต้อหิน และตาบอดในที่สุด ซึ่งน่าเสียดายที่ต้องมาเสียดวงตาไปกับความเชื่อดังกล่าวข้างต้น


ความเชื่อ

อายุ 50 ปีแล้วยังอ่านหนังสือได้ด้วยตาเปล่า แสดงว่าสุขภาพตาคงจะดีมากกว่าแต่ก่อน เพราะ 10 ปีก่อนต้องใช้แว่นจึงจะอ่านหนังสือได้

คำตอบ

คนที่วัย 40 ปีขึ้นไป มักจะมีปัญหาสายตาสูงอายุเข้ามาเยือน ซึ่งต้องใช้แว่นเลนส์นูนจึงจะอ่านหนังสือได้ คนไหนที่อ่านหนังสือได้โดยไม่ใช้แว่นอาจเป็นเพราะเขามีสายตาสั้นมาก่อน

ส่วนกรณีดังกล่าวข้างต้นที่ว่า เมื่อ 10 ปีก่อนใช้แว่นอ่านหนังสือเดี๋ยวนี้สายตากลับอ่านได้ด้วยตาเปล่า อันนี้ไม่ได้แสดงว่าสุขภาพตาดีขึ้นแต่อย่างใดเพียงแต่ว่าสายตาคนนี้สั้นลง ซึ่งเรามักจะพบได้ในคนที่เริ่มเป็นต้อกระจก

เพราะฉะนั้นคนที่สายตากลับจึงควรได้รับการตรวจตาจากจักษุแพทย์ เพราะมักเป็นอาการเริ่มต้นของต้อกระจกนั่นเอง


ความเชื่อ

ตาที่มองไม่เห็นชัดดี ไม่มีอาการขัดเคืองหรือปวดคงไม่มีปัญหาโรคตาไม่จำเป็นต้องไปตรวจก็ได้

คำตอบ

เราพบผู้ป่วยหลายรายที่มีการศึกษาดีตำแหน่งหน้าที่การงานสูงๆ เป็นต้อหินขั้นที่สายตาแทบใช้การไม่ได้ เราไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเขาเหล่านั้นไม่มีเวลามาตรวจ หรือเป็นเพราะมีความเชื่อดังกล่าว

ถ้าเป็นจากความเชื่อดังกล่าวก็คงผิดถนัด เพราะว่าต้อหินชนิดเรื้อรังระยะเริ่มต้นจะไม่แสดงอาการอะไรทั้งสิ้น เพียงแต่ความดันตาสูงขึ้น ซึ่งรู้ได้โดยการตรวจวัดจากจักษุแพทย์ ตัวเราเองก็ไม่มีอาการอะไรกว่าสายตาจะมัวต้อหินก็กินประสาทตาไปไกลแล้ว

จึงอยากจะแนะนำท่านว่าควรจะตรวจวัดความดันตาปีละครั้ง โดยเฉพาะในคนที่อายุ 35 ปีขึ้นไป หรือในคนที่มีประวัติต้อหินในครอบครัว


ความเชื่อ

สายตามัวถ้าได้แว่นดีๆ สัก 1 อัน คงจะสว่างมองเห็นได้ดี

คำตอบ

ความเชื่อข้อนี้เห็นได้ว่าจากความจริงที่ว่า ประชาชนส่วนใหญ่ที่ตามัวมองไม่ชัดมักจะเข้าหาร้านแว่นตา ให้ช่างวัดหาแว่นเหมาะๆ สัก 1 อัน แทนที่จะไปโรงพยาบาลหาหมอตาตรวจดูเสียก่อนว่า ตามัวนั้นเป็นจากโรคหรือจากสายตา

การที่มีความคิดแต่จะหาแว่นตาสัก 1 อัน แล้วเป็นอันยุติปัญหาของตนเอง ดูจะเป็นการคิดสั้นเกินไป เพราะถ้าบังเอิญคนๆ นั้นมีทั้งสายตาสั้นและโรคตาร่วมด้วย เช่น ต้อหิน ตัดแว่นไปก็เห็นดีขึ้นแน่นอน

แต่ภาวะต้อหินที่เขาเป็นอยู่จะถูกมองข้ามไปเพราะช่างแว่นไม่ใช่หมอ และคนไข้เองก็ไม่คิดว่าตัวเองจะมีโรคตาอื่นร่วมด้วย เพราะเห็นว่าใส่แว่นแล้วชัดกว่าเก่าขึ้นมากก็พอใจแต่เพียงเท่านั้น


ความเชื่อ

คนเราเมื่อแก่ตัวลงตาก็จะฝ้าฟาง มองอะไรไม่ชัดเป็นธรรมดาของสังขาร

คำตอบ

ความเชื่อเช่นนี้ทำให้ผู้เฒ่าหลายคนต้องตาบอดไปอย่างไม่น่าจะบอด จริงอยู่คนเราเมื่อแก่ตัวลงตาก็จะมัวมองอะไรไม่ชัด

แต่การมัวลงเช่นนี้จะต้องมีสาเหตุ เช่น ต้อหิน ต้อกระจก ประสาทตาเสื่อม หรือสายตาเปลี่ยนไป อาจจะสายตาสั้นลงหรือยาวขึ้น อาการตามัวในคนวัยไหนๆ

จึงไม่ควรถือเป็นเรื่องของสังขาร ควรจะไปรับการตรวจจากจักษุแพทย์ เพราะอาจจะเป็นโรคตามัวที่รักษาให้หายขาดได้ เช่น ต้อหิน และต้อกระจก เป็นต้น


ความเชื่อ

หลายคนที่มีปัญหาทางตามาหาแพทย์ได้ยาไปหยอดแล้วหาย ก็เลยเที่ยวแจกยาขวดนั้นให้คนอื่นๆ ที่มีปัญหาทางตาได้ลองใช้ดู
โดยคิดไปว่าโรคตาก็เหมือนๆกันหมด ถ้าขวดนี้มันหยอดหายคนอื่นก็ต้องหายด้วย

คำตอบ

โรคตามีหลายอย่างการรักษาก็ต่างกันออกไป ไม่เหมือนโรคปวดหัวหรือฮ่องกงฟุตที่ใช้ยาในกลุ่มเดียวกัน การแนะนำยาของตัวเองให้ผู้อื่นที่เป็นคนละโรคกันอาจมีโทษรุนแรงถึงขั้นตาบอดได้

ยกตัวอย่างยาบางอย่างที่รักษาอาการอักเสบของม่านตาไปหยอดให้คนป่วยโรคต้อหินทำให้ต้อหินกำเริบหนักถึงขั้นบอดได้ ฉะนั้นอย่าทำตัวเป็นนักบุญเที่ยวแจกยาให้คนอื่นๆ ควรแนะนำให้เขามาพบจักษุแพทย์จะดีที่สุด


ความเชื่อ

สายตาที่ผิดปกติ เช่น สายตาสั้นสามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยการออกกำลังกาย และกินยาบำรุง การใส่แว่นตาแก้ไขมีแต่จะทำให้เจ้าตัวติดแว่น กลายเป็นคนถอดแว่นไม่ได้และทำให้สายตาสั้นมากขึ้นเรื่อยๆ

คำตอบ

สายตาที่ผิดปกติมีทางแก้ไขให้เห็นชัดด้วยการใช้แว่นตาหรือทำเลสิค ยากินไม่ได้ช่วย เพราะสายตาที่ผิดปกติเราไม่ถือว่าเป็นโรค เป็นแต่เพียงความแปรปรวนของค่าสายตา เปรียบได้กับคนสูง ต่ำ ดำ ขาว ที่เราพบเห็นทั่วๆไป

เมื่อเราแก้ไขสายตาผิดปกติด้วยแว่นแล้วทำให้การมองเห็นชัดขึ้นมาก ต่อไปเมื่อค่าสายตาเปลี่ยนไปเจ้าของจะทราบว่าแว่นตามัวลงต้องไปตัดใหม่ คนไม่เข้าใจก็คิดว่าเป็นเพราะคนคนนี้ติดแว่น และแว่นทำให้สายตาสั้นมากขึ้น

ซึ่งที่จริงแล้วไม่เกี่ยวกับแว่น ถึงแม้เขาจะไม่ใส่แว่นค่าสายตาก็เปลี่ยนแปลงไปตามอายุ แต่เขาจะไม่ค่อยรู้ตัวเนื่องจากการมองเห็นดั้งเดิมมัวอยู่แล้วเพราะไม่ได้ใช้แว่นถ้าจะมัวเพิ่มขึ้นอีกนิดก็ไม่รู้ถึงความแตกต่าง


แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง

© 2024 โรงพยาบาลขอนแก่นราม