degrees call-center-agent ambulance stethoscope hours-phone-service wifi-connection-signal-symbol drink-water water-heater bowl-in-a-microwave freezer wardrobe computer cutlery table sofa newspaper cd-player television bathroom-furniture toilet patient-in-hospital-bed hospital-bed

ตะคริวที่เท้า เป็นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศ ทุกวัย และสามารถเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ ชนิดที่ไม่เลือกเวลา และสถานที่

สาเหตุ

1.ภาวะขาดน้ำ

หากในแต่ละวันมีการดื่มน้ำไม่เพียงพอ ร่างกายจะมีอาการขาดน้ำ ส่งผลให้เกลือแร่ของเลือด โพแทสเซียม โซเดียม และแมกนีเซียมในร่างกายไม่สมดุล โดยเฉพาะในกล้ามเนื้อ และถ้ากล้ามเนื้อเกิดความไม่สมดุล จะทำให้กล้ามเนื้อที่นิ้วเท้าและฝ่าเท้าเกิดการหดตัวจนเกิด อาการตะคริวที่เท้า ขึ้นมา

2.ไม่ค่อยออกกำลังกาย

การไม่ออกกำลังกายนอกจากจะทำให้ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง เสี่ยงที่จะเป็นโรคภัยไข้เจ็บชนิดรุนแรง และเรื้อรังแล้ว ยังสามารถส่งผลให้เกิดอาการตะคริวที่เท้าได้อีกด้วย เพราะการออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายแข็งแรง กล้ามเนื้อและระบบประสาทเกิดความสมดุล ทำให้กล้ามเนื้อไม่หดตัว ลดโอกาสในการเป็นตะคริว

3.สวมใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสม

ในแต่ละวันเราใช้เท้าในการก้าวเดินไปยังที่ต่าง ๆ หลายร้อยหลายพันก้าว การเลือกรองเท้าที่มีรูปแบบการดีไซน์ที่เหมาะสม จะช่วยในการกระจายน้ำหนักตัวได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสม เช่น คับไป หรือหลวมไป จะส่งผลให้เป็นตะคริวได้

4.อาการทางสุขภาพ

ผู้ป่วยที่มีอาการทางสุขภาพบางประเภท อาจมีผลทำให้เกิด อาการตะคริวที่เท้า ได้ เช่น ผู้ป่วยด้วยโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง โรคพาร์กินสัน หรือโรคเบาหวาน เพราะอาการทางสุขภาพดังกล่าวจะทำให้ระบบประสาทมีการเปลี่ยนแปลง อาจเกิดอาการกระตุก และทำให้เป็นตะคริว

5.อายุ

อายุที่เพิ่มมากขึ้น ก็เพิ่มความเสี่ยงของการเป็นตะคริวมากขึ้น เมื่ออายุมากขึ้นระบบประสาทและกล้ามเนื้อก็จะค่อย ๆ ลดประสิทธิภาพในการทำงานลง ปริมาณน้ำในกล้ามเนื้อก็น้อยลง จนอาจทำให้กล้ามเนื้อที่บริเวณเท้าและนิ้วเท้าเกิดการเกร็งตัว จนเป็น อาการตะคริวที่เท้า ในที่สุด

6.การตั้งครรภ์

แน่นอนว่าปัญหานี้พบได้เฉพาะเพศหญิง แต่แพทย์และผู้เชี่ยวชาญยังไม่มีการค้นพบถึงสามารถที่แท้จริงว่าทำไมผู้ที่ตั้งท้องจึงมี อาการตะคริวที่เท้า แต่สันนิษฐานว่าอาจเป็นเพราะ

  • น้ำหนักตัวของทารกที่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
  • ภาวะขาดน้ำ
  • ภาวะขาดสารอาหาร เช่น โพแทสเซียม หรือแมกนีเซียม

วิธีป้องกัน

อาการตะคริวที่เท้า หรือที่ขา สามารถที่จะป้องกันได้ง่าย ๆ เพียงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตบางประการ ก็จะช่วยลดโอกาสในการเป็นตะคริว ซึ่งทุกคนสามารถที่จะทำตามได้ง่าย ๆ ดังนี้

1.ดื่มน้ำให้มาก ๆ

การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ช่วยลดโอกาสในการเกิด ภาวะขาดน้ำ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้มี อาการตะคริวที่เท้า

2.สวมใส่รองเท้าที่เหมาะสมกับเท้า

เลือกใส่รองเท้าที่เหมาะกับรูปเท้า เลือกให้พอดี ไม่คับ และไม่หลวมจนเกินไป เพื่อที่รองเท้าจะได้กระจายน้ำหนักตัวออกไปอย่างเหมาะสม สามารถที่จะเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ

3.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายแน่นอนว่าทำให้ร่างกายแข็งแรงและยังช่วยลด อาการตะคริวที่เท้าได้อีกด้วย หมั่นออกกำลังกายที่ช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อต่าง ๆ ทั้งแขนและขา เพื่อให้ทั้งระบบกล้ามเนื้อ และระบบประสาทเกิดความสมดุลมากขึ้น

4.กินอาหารให้หลากหลาย

การขาดสารอาหารบางประเภท ก่อให้เกิดตะคริวได้ ดังนั้นจึงควรรับประทานอาหารให้หลากหลาย ครบทั้งผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์

5.ยืดหยุ่นร่างกายอยู่เสมอ

หากมี อาการตะคริวที่เท้า ในตอนกลางคืน ก่อนนอนควรมีการยืดเส้นยืดสายเล็กน้อย เพื่อให้กล้ามเนื้อคลายตัว และสามารถผ่อนคลายได้ดีขณะนอนหลับ

เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์

โรคภัยไข้เจ็บบางประเภทมีส่วนที่ทำให้เป็นตะคริวที่เท้า หากคุณมีอาการทางสุขภาพ เช่น โรคพาร์กินสัน โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง หรือโรคเบาหวาน ควรไปพบคุณหมอเพื่อขอคำแนะนำหากมี อาการตะคริวที่เท้า และสงสัยว่าอาจมาจากโรคภัยไข้เจ็บที่เป็นอยู่

หากคุณเป็นตะคริวที่เท้าบ่อยจนเกินไป รวมถึงมีอาการบวม แดง ที่เท้าหลังจากเป็นตะคริว ควรไปพบแพทย์โดยทันที




© 2024 โรงพยาบาลขอนแก่นราม