degrees call-center-agent ambulance stethoscope hours-phone-service wifi-connection-signal-symbol drink-water water-heater bowl-in-a-microwave freezer wardrobe computer cutlery table sofa newspaper cd-player television bathroom-furniture toilet patient-in-hospital-bed hospital-bed

การฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก

คำแนะนำการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก

  • แนะนำให้ฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9 ขวบขึ้นไปถึง 26 ปี
  • หลักการคือ ฉีดตั้งแต่ยังไม่มีเพศสัมพันธ์และร่างกายอยู่ในวัยที่สามารถสร้างภูมิคุ้ม กันได้ดี เพื่อให้มีประสิทธิภาพจากวัคซีนสูงสุด
  • นอกจากนี้ ยังแนะนำให้ฉีดในผู้หญิงวัยเจริญพันธ์ได้ นอกจากนี้วัคซีนยังสามารถป้องกันหูดหงอนไก่ และมะเร็งทวารหนักในเด็กผู้ชายได้อีกด้วย

ระยะเวลาการฉีด

  • ในเด็กผู้หญิงอายุ 9–15 ปี สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดี จึงสามารถฉีดวัคซีนเพียง 2 เข็ม ห่างกัน 6 เดือน แต่ประสิทธิภาพเทียบเท่ากับการฉีดวัคซีน 3 เข็มของหญิงวัยเจริญพันธ์
  • ส่วนผู้หญิงวัยเจริญพันธ์ในช่วงอายุอื่น แนะนำให้ฉีด 3 เข็ม เพื่อร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้เต็มที่
    • ครั้งที่ 1 ฉีดในวันที่เลือก
    • ครั้งที่ 2 ฉีดห่างจากเข็มแรก 1–2 เดือน
    • ครั้งที่ 3 ฉีดห่างจากเข็มแรก 6 เดือน
  • ผู้ที่ฉีดวัคซีนไปแล้วต้องมีการตรวจภายในและตรวจมะเร็งปากมดลูกตามปกติ

การคัดกรองก่อนฉีดวัคซีน

  • หากไม่มีประวัติมีเพศสัมพันธ์สามารถฉีดวัคซีนได้เลย
  • หากมีประวัติเพศสัมพันธ์มาก่อนและไม่เคยตรวจมะเร็งปากมดลูก (PAP Smear) ก็ให้ตรวจเพื่อคัดกรองหามะเร็งปากมดลูกก่อน ถ้าผลปกติให้ฉีดวัคซีนได้ ถ้าผลผิดปกติให้รักษาตามมาตรฐาน
  • หากตรวจภายในอย่างสม่ำเสมอให้ฉีดวัคซีนได้
อาการสำคัญที่ควรกลับมาพบแพทย์ทันที

แน่นหน้าอก ใจสั่น เป็นผื่น หรือปวด บวมแดงบริเวณที่ฉีด


แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง

© 2024 โรงพยาบาลขอนแก่นราม